คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554

วันครู

                 ประวัติ วันครู
     ในปี พ.ศ. 2499 จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี และประชาชน กรรมการอำนวยการคุรุสภา กิตติมศักดิ์ ในสมัยนั้นได้กล่าวคำ ปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศ และได้เสนอแนะว่า เนื่องจากครูเป็นผู้มีบุญคุณและเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย ครูจึงควรมีสักวัน ในวันหนึ่งสำหรับได้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ได้มีโอกาสแสดงความเคารพสักการะ จะเห็นว่าในวันสำคัญอื่นๆ เช่น วันปีใหม่ และวันสงกรานต์ พวกเราก็จะแสดงความเคารพสักการะต่อญาติๆ ทั้งที่มีชีวิตอยู่และที่เสียชีวิตไปแล้ว และยังทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ญาติผู้ล่วงลับไปแล้วอีกด้วย และเนื่องจากครูของเรามีบทบาทสำคัญถัดจากบิดามารดา ข้าพเจ้าจึงใครที่เสนอความคิดนี้ต่อประชุมนี้และขอร้องให้พวกท่านไปพิจารณาในหลักการ หวังว่าทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง
     จากแนวความคิดนี้กอปรกับความเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชน ล้วนเรียกร้องให้มีวันครู เพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครู ในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ ประกอบคุณงามความดี เพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมาก ที่ประชุมคุรุสภาให้มีวันครู เพื่อที่จะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมความสามัคคีระหว่างครู และเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชน
     ดังนั้นในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้วันที่ 16 มกราคมของทุกๆปี เป็น "วันครู" และการจัดงานวันครู ได้มีขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 และให้ดำเนินเรื่อยมาทุกปี นับตั้งแต่บัดนั้นมา โดยจัดให้มีขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งกิจกรรมหลักในวันนั้นประกอบด้วย
- พิธีกรรมทางศาสนา
- พิธีรำลึกถึงพระครูบูรพาจารย์
- กิจกรรมเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบอาชีพครู
- นายกรัฐมนตรีมอบรางวัลครูดีเด่นประจำปี มอบของที่ระลึก ให้ครูอาวุโสนอกและในประจำการ
คำปฏิญาณตนของครู
ข้อ 1. ข้าฯจะบำเพ็ญตนให้สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นคร ู
ข้อ 2. ข้าฯจะตั้งใจฝึกสอนศิษย์ให้เป็นพลเมืองดีของชาต
ข้อ 3. ข้าฯจะรักษาชื่อเสียงของคณะครูและบำเพ็ญตนให้เป็น ประโยชน์ต่อสังคม
จรรยามารยาทและวินัยตามระเบียบประเพณีของครู
1. เลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ
2. ยึดมั่นในศาสนาที่ตนนับถือ ไม่ลบหลู่ดูหมิ่นศาสนาอื่น
3. ตั้งใจสั่งสอนศิษย์และปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เกิดผลดีด้วย ความเอาใจใส่ อุทิศเวลาของตนให้แก่ศิษย์ จะละทิ้งหรือ ทอดทิ้งหน้าที่การงานไม่ได้
4. รักษาชื่อเสียงของตนมิให้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว ห้าม ประพฤติการใด ๆ อันอาจทำให้เสื่อมเสียเกียรติและชื่อเสียง ของครู
5. ถือปฏิบัติตามระเบียบและแบบธรรมเนียมอันดีงามของสถาน ศึกษา และปฏิบัติตามคำสั่งของ ผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งในหน้าที่การงาน โดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบแบบแผนของ สถานศึกษา
6. ถ่ายทอดวิชาความรู้โดยไม่บิดเบือนและปิดบังอำพราง ไม่นำ หรือยอมให้นำผลงานทางวิชาการของตนไปใช้ในทางทุจริต หรือเป็นภัยต่อมนุษย์ชาติ
7. ให้เกียรติแก่ผู้อื่นทางวิชาการโดยไม่นำผลงานของผู้ใดมาแอบอ้างเป็นผลงานของตนและไม่เบียดบังใช้แรงงานหรือนำผลงาน ของผู้อื่นไปเพื่อประโยชน์ส่วนตน
8. ประพฤติตนอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติหน้าที่ของตน ด้วยความเที่ยงธรรมไม่แสวงหาประโยชน์สำหรับตนเอง หรือ ผู้อื่นโดยมิชอบ
9. สุภาพเรียบร้อยประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ รักษาความลับของศิษย์ของผู้ร่วมงานและของสถานศึกษา
10. รักษาความสามัคคีระหว่างครูและช่วยเหลือกันในหน้าที่ การงาน

     เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อครู พวกเราจึงขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกได้โปรดอำนวยอวยพรให้ท่านและครอบครัวของท่านมีความสุข ความเจริญ และมีสุขภาพจิตและสุขภาพกายแข็งแรง ตลอดไป
       ดอกไม้ประจำของวันครู ก็คือ ดอกกล้วยไม้ เนื่องจากมีลักษณะคล้ายคลึงกับการจัด การศึกษาและสภาพชีวิต ของครู ดังคำกลอนของ หม่อนหลวงปิ่น มาลากุล ที่ว่า
"กล้วยไม้มีดอกช้า ฉันใด
การศึกษาเป็นไป เช่นนั้น
แต่ออกดอกคราวใด งานเด่น
งานสั่งสอนปลูกปั้น เสร็จแล้วแสนงาม"

กล้วยไม้ยังเป็นพืชที่อยู่ในที่สูงทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ ไม่ร่วงโรยง่าย เปรียบเสมือนครู
ที่อยู่ทั่วแดนไทยที่ต้องอดทนต่อสู้เพื่ออุดมการณ์และอุทิศตนเพื่อการศึกษาของชาติ